วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เอลพิส กับบทเพลงแห่งพระพร ตอนที่ 2


เอลพิสกลับมายังเมืองของตนเอง
และได้เริ่มหน้าที่ในการเป่าแตรบรรเลงเพลงแห่งความสุขให้แก่เมืองของเขา

คนเป็นอันมากได้ยิน ก็มีความสุข

คนยากจนได้ยิน ก็มีความสุข

คนร่ำรวยได้ยิน ก็มีความสุข

ไม่ว่าใครได้ยิน ก็มีความสุข

แม้บางครั้ง บางคนอาจจะไม่ชอบเสียงแตรของเอลพิสในวินาทีแรกที่ฟัง

แต่เมื่อเขาได้ฟังไปเรื่อยๆ คนที่ไม่ชอบก็เปลี่ยนใจเป็นชอบได้

***

แน่นอนว่า มีคนหลายคนก็ได้ขอเป็นศิษย์ของเอลพิส เพื่อที่จะเป่าแตรแห่งความสุขนี้เช่นกัน

เอลพิสยินดีที่จะสอนคนเหล่านั้น อย่างจริงจังและเต็มที่

และศิษย์รุ่นแรกของเอลพิสก็กำลังจะจบการศึกษา

"ท่านอาจารย์เอลพิส บทเพลงใดคือบทเพลงสุดท้ายที่จะทำให้พวกเราเรียนจบได้ครับ"

"แม้ยากเย็น เราก็จะทำให้ได้ครับ"

เอลพิสนึกถึงวันที่ตัวเองรับการทดสอบจากอาจารย์เจย์ และก็ครุ่นคิดในใจ

"ถ้าเราทดสอบแบบที่อาจารย์เจย์เคยทดสอบเรา มันคงเสียเวลาน่าดู"

"เมืองนี้ต้องการความสุขโดยเร็ว ไม่ควรที่เราจะชักช้าในการให้คนไปทำงานนี้"

"เอาอย่างนี้ดีกว่า"

แล้วเอลพิสก็หันไปบอกลูกศิษย์ของเขาว่า

"บทเพลงสุดท้ายที่ข้าจะทดสอบพวกเจ้า คือบทเพลงแห่งเอลพิส"
"ซึ่งข้าได้ให้ความสุขแก่เมืองนี้ ด้วยบทเพลงนี้นั่นเอง"

"สิ่งที่ข้าต้องการจากพวกเจ้า คือการที่พวกเจ้าจะเป่าบทเพลงนี้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน
ทั้งท่วงทำนอง และความรู้สึกของบทเพลงนี้"

"นี่จะเป็นบรรทัดฐาน สำหรับศิษย์รุ่นต่อๆ ไป
ที่พวกเจ้าจะสั่งสอนให้พวกเขา เข้าถึงบทเพลงแห่งเอลพิสให้จงได้"

ศิษย์ทุกคนน้อมรับได้ใจเชื่อฟัง และฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย

และทุกๆ คนก็สำเร็จการศึกษาได้ ภายใน 1 เดือน

เอลพิสก็คิดในใจว่า "นี่ล่ะ เมื่อทุกๆ คนเป่าบทเพลงแห่งเอลพิสพร้อมๆ กัน
มันคงจะได้เป็นบทเพลงของพระพรอย่างที่ท่านอาจารย์เจย์เคยบอกไว้แน่ๆ"

***

และวันนั้นก็มาถึง เมื่ออาจารย์ และศิษย์รุ่นแรกได้เป่าแตรร่วมกันเป็นครั้งแรก
ให้ชาวเมืองได้ฟัง

ทุกๆ ชื่นชม และมีความสุขกันอย่างมากมาย

แต่ ... ไม่มีหมายสำคัญอย่างที่อาจารย์เจย์บอกไว้ก็คือ "ฝนแห่งสววรค์" ร่วงหล่นลงมา

"ไม่เป็นไร แค่คนมีความสุข ก็ดีแล้ว" เอลพิสคิดในใจ

***

เอลพิส และศิษย์ทั้งหลายของเขา กลายเป็นความสุขของชาวเมืองแทบทุกคน

ทุกถนนในเมือง มีศิษย์ของเอลพิสคอยเป่า "บทเพลงแห่งเอลพิส" เพื่อให้ความสุข อยู่ทุกๆ วัน

และก็ไม่ได้มีแค่เมืองของเอลพิส ศิษย์ของเอลพิสหลายคน
ก็ได้เดินทางไปยังเมืองอื่นๆ เพื่อนำความสุขไปให้พวกเขาด้วยเช่นกัน

***

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่ง ...

"อาจารย์ ข้าเป่าบทเพลงแห่งเอลพิสไม่ได้จริงๆ ข้าไม่ถนัด"
ศิษย์รุ่นหลังคนหนึ่ง บอกกับอาจารย์ของเขา
ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ที่เอลพิสยังสอนเองกับมือ

"ถ้าเจ้าเป่ามันไม่ได้ จะให้ความสุขผู้คนได้อย่างไร" อาจารย์เตือน

"ข้าคิดว่า ข้าจะลองสร้างบทเพลงของตัวเอง ที่ข้าทำแล้วถนัดมือกว่า"

"ข้าเชื่อว่ามันไพเราะ และให้ความสุขกับคนได้เช่นกัน"

"เจ้าทำอย่างนี้ไม่ได้" อาจารย์กล่าวห้าม

"ถ้าเจ้าเป่าไปตามอำเภอใจของเจ้า มันจะเสียบรรทัดฐานที่วางไว้"

"แต่ข้าไม่ถนัดจริงๆ นะครับ ท่านอาจารย์" ศิษย์อ้อนวอน

"จงเชื่อฟัง เป่าบทเพลงของเอลพิสให้ได้
นี่คือบทเพลงแห่งความสุขที่แท้จริง" อาจารย์ตัดบท

ศิษย์คนนั้น เดินออกไป จิตใจของเขาห่อเหี่ยว
เพราะเขาก็พยายามแล้ว แต่บทเพลงแห่งเอลพิสมันไม่ถนัดกับตัวของเขาจริงๆ

เขาพยายามฝืนเป่าบทเพลงแห่งเอลพิสตามศิษย์คนอื่นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว

"ขอโทษจริงๆ นะครับท่านอาจารย์ และท่านอาจารย์ใหญ่เอลพิส" เขานึกในใจ

"ข้ารู้สึกว่า ข้าคงไม่สามารถเป็นศิษย์ของท่านต่อไปได้"

และแล้วเขาก็หายหน้าไปจากเมือง

ผ่านไปสักพัก เขาก็กลับมา พร้อมกับการเป็นผู้เป่าแตรตามที่เคยเป็นมา

แต่ท่วงทำนองของเขา ต่างกับท่วงทำนองของบทเพลงแห่งเอลพิส

ผู้ที่ได้ยินก็ประหลาดใจว่า "นี่เป็นบทเพลงอะไรหรือ
ทำไมถึงทำให้พวกเรามีความสุขได้เหมือนอย่างบทเพลงแห่งเอลพิสเลย"

***

เรื่องถึงหูเอลพิสเข้า ว่ามีคนเป่าแตร แต่คนละท่วงทำนองกับบทเพลงแห่งเอลพิส

เอลพิสรู้สึกโกรธ

อย่างแรก คนๆ นั้นเคยเป็นศิษย์ในสำนักของเอลพิส

อย่างที่สอง เขากลับไม่ยอมเป่าบทเพลงแห่งเอลพิส

เอลพิสจึงเรียกประชุมศิษย์ทุกคน กล่าวว่า

"ทุกคนคงรู้ดีว่ามีคนหนึ่งในพวกเราจากเราไป และวันนี้เขากลับมา ทำในสิ่งที่ต่างกับพวกเรา"

"สิ่งแรกที่เราต้องดูแล ก็คืออย่าให้ใครในพวกเราออกไปอีก"

"และสิ่งที่สอง จงสร้างค่านิยมว่า
บทเพลงที่ให้ความสุขได้มากที่สุด คือบทเพลงแห่งเอลพิส"

ศิษย์ที่จงรักภักดีทุกคนรีบปฎิบัติตามทันที

แต่ก็มีศิษย์บางคน เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และการตัดสินใจของท่านอาจารย์ใหญ่เอลพิส

"ผิดด้วยหรือ ที่คนๆ หนึ่ง ทำสิ่งที่แตกต่าง แต่ก็ให้ความสุขกับผู้อื่นได้เหมือนกัน"

***

ติดตามตอนต่อไป

3 ความคิดเห็น:

  1. โอ้
    ว้าวววว
    มันมาแล้วครับทั่น

    ตอบลบ
  2. อืม .... ผู้ใดไม่ต่อต้านเราก็อยู่ฝ่ายเรา
    เขียนได้ดีมาก ใครมีประสบการณ์ร่วมอ่านแวบเดียวเข้าใจทันที รูปแบบการเขียนอ่านง่ายชวนติดตาม

    ทึ่งในความสามารถและการพัฒนาของท่านจริงๆ story teller/song writer of 21st century นับเป็นพระพรของเราที่ได้รู้จักท่านในห้องเรียนนั้นที่อ.ไก่สอน (ยังจำได้ป่าววะ)

    ตอบลบ