วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เอลพิส กับบทเพลงแห่งพระพร ตอนที่ 3


อีกครั้งหนึ่ง ที่เอลพิส ได้นำศิษย์ของเขาทั้งหมด รวมถึงตัวเขา
ออกแสดงบทเพลงแห่งเอลพิส
เพื่อให้ความสุขกับชาวเมืองทุกคน

และแน่นอน ... เพื่อย้ำว่า บทเพลงแห่งเอลพิส เป็นบทเพลงแห่งความสุขที่แท้จริง

การแสดงทำท่าจะไปได้สวย แต่ก็มามีปัญหาในตอนสุดท้าย

ศิษย์รุ่นหลังๆ ของเอลพิสหลายคน ไม่สามารถเล่นเพลงได้ดีเท่ารุ่นแรกๆ

ทำให้บทเพลงฟังไม่พร้อมเพรียงกัน

การแสดงวันนั้น จบลงอย่างพอดูได้

และ "ฝนแห่งสวรรค์" ก็ยังไม่ปรากฎ เหมือนเคย

แต่คนทั้งหลายก็เริ่มสงสัยแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับบทเพลงแห่งเอลพิส
ที่เคยให้ความสุขแก่พวกเขา

***

เอลพิสเสียใจ และโมโหอย่างมาก

"ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ทุ่มเท ฝึกฝนให้ดีกว่านี้"
เอลพิสต่อว่าศิษย์เหล่านั้นที่ทำพลาด

"พวกเจ้าทำให้คนทั้งเมืองหมดความสุข ทั้งๆ ที่บทเพลงแห่งเอลพิส
คือความสุขของพวกเขา"

ศิษย์เหล่านั้นก็เสียใจ ที่ไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่เอลพิสคาดหวัง

ไม่ใช่พวกเขาไม่ฝึกซ้อม

ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากให้ชาวเมืองมีความสุข

แต่บทเพลงแห่งเอลพิส ไม่ถนัดมือพวกเขาจริงๆ

และแล้ว เมื่อทนแรงกดดันไม่ไหว ศิษย์เหล่านั้น
ก็หนีหายจากสำนักของเอลพิส

และไม่กลับมาเป่าแตรอีกเลย

***

นับวัน สำนักของเอลพิสใหญ่โตขึ้นก็จริง
แต่สิ่งที่เริ่มหายไปจากชีวิตของเอลพิส คือความสุข

ตื่นเช้ามา เขาก็ต้องไปดูการฝึกซ้อมของศิษย์รุ่นใหม่ๆ

กลางวัน ก็เฝ้ารอจดหมาย ที่ส่งมาจากสำนักของเอลพิส ที่เมืองอื่นๆ

ตอนเย็น ก็ต้องอยู่ประชุมกับศิษย์รุ่นแรก

ตกค่ำ ก็หลับไม่ลง เพราะยังต้องคิดสิ่งที่ต้องทำพรุ่งนี้ต่ออีก

ความสุขของเอลพิสที่หายไป
ก็ทำให้บทเพลงของเอลพิสหมดความสุขไปด้วย

ศิษย์ที่ยังอยู่กับเขา ก็ยังทำงานอยู่เช่นเดิม

ยังเป่าบทเพลงแห่งเอลพิสอยู่เหมือนเดิม

แต่ ... ที่ไม่เหมือนเดิม คือความสุข หายไปจากบทเพลง

แต่ก็อีกนั่นแหละ ... เพราะทุกๆ คนที่เป็นศิษย์เอลพิส
ได้รับการปลูกฝังค่านิยมว่า บทเพลงของเอลพิส คือความสุขที่แท้จริง

จึงไม่มีใครกล้าเชื่อสิ่งที่ตัวเองรู้สึกจริงๆ
และพยายามที่จะเป่าบทเพลงแห่งเอลพิสต่อไป

***

วันหนึ่ง เอลพิสก็จัดประชุมศิษย์ทุกคนอีกครั้ง

"ข้าเห็นสิ่งที่เกิดในหมู่พวกเรา และข้าคิดว่าพวกเราต้องทำอะไรบางอย่าง"

"บทเพลงแห่งเอลพิส ถูกใช้มานาน และก็เป็นบทเพลงแห่งความสุขที่แท้จริง"
"แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ควรมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นในพวกเราบ้าง"

ศิษย์หลายคนฟังอย่างใจจดใจจ่อ ... สิ่งใหม่น่ะหรือ? ...

"ข้าได้ทำบทเพลงขึ้นมาอีกหนึ่งบทเพลง"

"ขอให้ชื่อมันว่า บทเพลงแห่งอนาคต"

ศิษย์หลายคนงง ... บทเพลงแห่งอนาคตหรือ

"เพราะอุดมการณ์ที่เรามี การให้ความสุขแก่ชาวเมืองนี้"

"และบทเพลงแห่งอนาคต จะเป็นสิ่งที่ให้ความสุขแก่ชาวเมือง
มากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน"

แล้วเอลพิส ก็เริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งอนาคตให้ศิษย์ทั้งหมดได้ฟัง

บทเพลงนั้นดูไพเราะก็จริง แต่สิ่งที่ศิษย์หลายคนสัมผัสได้ก็คือ
มันฟังแล้วดูเหนื่อยล้า มากกว่าจะเป็นความสุข

"มีใครจะพูดอะไรไหม" เอลพิสถาม

ทุกๆ คนเงียบ ไม่มีใครกล้าขัดอาจารย์ของพวกเขา

เพราะไม่อยากให้ท่านอาจารย์ของพวกเขาเสียใจ

และแน่นอน สิ่งที่ท่านอาจารย์คิดมาแล้ว ก็คงดีที่สุด

"ฉะนั้น นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป พวกเจ้าทั้งหลาย
จงฝึกฝนบทเพลงแห่งอนาคตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเพลง
และเป่าให้ชาวเมืองได้ฟัง"

***

ยิ่งฝึกฝนบทเพลงแห่งอนาคต ศิษย์หลายคนก็เริ่มท้ออกท้อใจ
เพราะมันช่างเหนื่อยล้า และขาดความสุขอย่างมากมาย

และเมื่อบรรเลงให้ชาวเมืองได้ยิน ชาวเมืองก็รู้สึกได้ว่า
มันไม่ไพเราะเท่าบทเพลงแห่งเอลพิส

พอครั้นศิษย์ของเอลพิส บรรเลงบทเพลงแห่งเอลพิสไปด้วย
ชาวเมืองก็แทบจะเบือนหน้าหนี

เพราะมันไม่ให้ความสุขแก่พวกเขา เหมือนแต่ก่อน

ในขณะเดียวกัน ผู้เป่าแตรที่เคยอยู่กับเอลพิส
แล้วปัจจุบันเป่าบทเพลงของตัวเอง มีคนมาขอเป็นศิษย์เพิ่มมากขึ้น

ศิษย์เหล่านั้น ได้อิสระภาพ ในการบรรเลงบทเพลงของตัวเอง
ที่จะทำให้เกิดความสุข ทั้งต่อตัวเขาเอง และกับผู้ที่ได้ฟัง

ศิษย์ของเอลพิสเริ่มหายไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ

จนวันที่น่าสะเทือนใจได้เกิดขึ้น

***

ติดตามตอนต่อไป

1 ความคิดเห็น: