วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หวังดี แต่ไม่เข้าใจ = หวังร้าย แต่ไม่รู้ตัว


ตอนประมาณ ป.5 แม่ทำบ้านใหม่เสร็จ และก็จะเอาผมไปอยู่ด้วย

กำลังเก็บของจะเรียบร้อยอยู่แล้ว ย่าที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กก็มาคุยด้วย

"ขิงน่าจะอยู่กับย่าต่อนะ จะได้เรียนโรงเรียนดีๆ ต่อ"

"อยู่กับย่าน่าจะมีประโยชน์กว่านะ"

"ลองบอกแม่ดูสิถึงเหตุผลที่ย่าให้ไป"

พอบอกแม่เท่านั้นแหละ แม่ร้องไห้ยกใหญ่ บอกว่าไม่รักแม่เหรอ ทำไมทำกับแม่อย่างนี้

สุดท้าย ก็เลยไปอยู่กับแม่

ความหวังดีของย่า เกือบทำให้ผมทำให้แม่เสียใจไปตลอดชีวิตแล้ว

(ซึ่งก็มารู้เอาทีหลังว่าย่ากับแม่ไม่ค่อยถูกกัน เฮ้อ ... ให้มันได้อย่างงั้นสิ)

พออยู่กับแม่ เมื่อจะขึ้นม. ปลาย แม่ก็มาคุยว่าขิงควรจะเรียนสายวิทย์นะ

"จะได้ทำมาหากินได้ง่าย"

ผมแอบร้องไห้ไม่ให้ใครเห็น เสียใจที่แม่ไม่เข้าใจผม ว่าผมน่ะเป็นคนชอบเรียนภาษากับประวัติศาสตร์ขนาดไหน

จนท้ายที่สุดพ่อก็มาช่วยพูดกับแม่ จนแม่ยอมให้ผมเรียนสายศิลป์ภาษา

เมื่อผมมาเชื่อพระเจ้า เชื่อจริงๆ จังๆ ได้สักพักก็ถูกหนุนใจว่า ควรรีบตั้งเป้าหมายจะเป็นหัวหน้าแคร์ให้ได้ภายใน 3 เดือนนะ

เลยฟิตใหญ่ ประกาศแล้วประกาศเล่า เค้าก็บอกว่าพูดอะไรน่ะ ไม่รู้เรื่อง

จนเมื่อได้พบกับพี่เลี้ยงคนหนึ่ง ที่ผมเคารพนับถือมาก เค้าก็บอกให้ผมหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ และวางรากฐานผมเสียใหม่

จนได้มาเป็นขิงแบบที่เห็นทุกวันนี้ ซึ่งไม่ต้องพยายามจะพูดเยอะ แต่พูดแล้ว "ทะลุใจ" ได้

คนหวังดีเยอะจริงๆ

เยอะมาก

แต่คนเข้าใจนี่น่ะสิ ทำไมมันหายากจัง

บางบริษัทที่ผมเคยทำงานให้ หวังดีกับผม สัญญาว่าจะจ่ายเงินให้ตรงเวลาเสร็จงาน

พอไปรับเงิน ก็ผัดผ่อนอยู่นั่นแหละว่าเงินงวดนี้หมดแล้ว รออีกหน่อยได้ไหม

ครั้งหนึ่งเหลืออดจริงๆ เลยยื่นคำขาดว่าจะนั่งมันอยู่ตรงที่รับแขกบริษัทเนี่ยแหละ จนกว่าจะจ่ายเงิน

ในใจก็คิดต่อไปด้วยว่า ใครมาติดต่ออะไรผมก็พูดให้เสียๆ หายๆ เป็นการ Discredit ไปเลย

ดีที่ไม่ได้ทำ และเค้าก็รีบจ่ายเงินผมแต่โดยดี

ผมเคารพในความหวังดี แต่เหนื่อยใจจริงๆ กับความไม่เข้าใจ

พระคัมภีร์เองก็ให้บทเรียนเรื่องนี้

ดาวิดหวังดี จะเอาหีบพันธะสัญญากลับเข้าเยรูซาเลม

เขาได้ใช้เกวียนลากหีบ

แต่เมื่อโคสะดุด อุสา คนที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุดพยายามไปจับหีบไว้ไม่ให้ตกลงพื้น

เขาตายทันที

ความหวังดีของดาวิด กลับทำให้ชีวิตหนึ่งชีวิตสิ้นไป

เพราะ "ลืม" ศึกษาให้ดีว่า หีบพันธะสัญญาต้องใช้คนเลวีเท่านั้นเป็นคนเคลื่อนย้าย

ผมขอบคุณทุกคน ที่หวังดี กับชีวิตของผม

แต่ก็อยากบอกว่า คนที่เปลี่ยนชีวิตผมได้จริงๆ คือคนที่เข้าใจผม

ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อที่พูดกับแม่ว่าให้ขิงมันเรียนตามที่มันสนใจเถอะ วันนั้นขิงก็คงเป็นเด็กสายวิทย์ที่คะแนนแย่มากๆ

และคงสอบเข้าธรรมศาสตร์ไม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เลี้ยงคนที่ผมนับถือบอกให้ผมเลิกทำตัวเป็น "คริสเตียนที่ดี" ในสายตาคนอื่น แล้วมาวางรากฐานชีวิตใหม่

ป่านนี้ผมว่าผมคงหลงหายไปเรียบร้อยโรงเรียนมารแล้ว เพราะลึกๆ ในใจตอนนั้นก็สับสนไม่น้อย

ในทางกลับกัน สิ่งที่ผมและเพื่อนรักอีกสองคนเคยทำลงไป อาจจะดู "ไม่หวังดี" กับใครหลายๆ คน ที่เป็น "คนที่อยู่สูงกว่า"

วันหนึ่ง ไอ้สามตัวนี้ เปิดบ้าน Center ที่ดูไร้ระเบียบเสียไม่มี

ไม่ได้วางกฎบ้าน ไม่ได้วางระเบียบอะไรชัดเจน

อยากอธิษฐานด้วยกัน ก็ปลุกกันมาอธิษฐาน

ชอบจัด Meeting คืนวันเสาร์ โปรแกรมก็ไม่มีอะไรนอกจากกิน คุย และนมัสการ

ใครมีปัญหา ก็เชิญมาระบายที่นี่

ดูแย่มาก แต่ ... ก็ช่วยทำให้คนที่กำลังจะหลงหาย กลับมาหาพระเจ้าได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง

ตอนนี้ ผมอยากเชิญชวนทุกๆ คนที่หวังดีกับผม มาลองทำความเข้าใจผมอย่างง่ายๆ

อย่างแรก ลองอยู่ในสตูดิโอกับผมสักครึ่งวัน

แล้วจะรู้ว่าทำเพลงน่ะมันเหนื่อย

อย่างที่สอง ลองเดินจากราชเทวี ไปถึง RCA ดู

แล้วจะรู้ว่า เวลาไม่มีเงินมันเป็นยังไง

(ขึ้นรถเมล์ยังสบายกว่าเลย)

อย่างที่สาม ... นึกไม่ออก

555

อย่าเลย แค่สองอย่างก็พอแล้วมั๊ง

ขอบคุณที่หวังดีครับ ผมแค่ต้องการความเข้าใจ หุๆๆๆๆ

2 ความคิดเห็น:

  1. เข้าใจจนจี๊ดๆ ในใจเลยน่ะ
    เราจะอธ.เผื่อพี่ และความตั้งใจของพี่เสมอๆ นะ

    ตอบลบ
  2. วันนั้น ดาวิดคิดอะไรอยู่นะ...
    1. เขาไม่รู้จริงๆว่าต้องหามหีบด้วยปุโรหิต
    2. ลืมจริงๆ ว่าต้องไปอ่าน บทบัญญัติของพระเจ้าเรื่องนี้เสียก่อน
    3. ก็รู้แหล่ะ แต่คิดเอาเองง่ายๆ ว่าไม่เป็นไร พระเจ้าคงเข้าใจ คงไม่ว่าอะไร
    4. เชื่อว่าพระเจ้าเห็นแก่ความตั้งใจดีของเรา เลยไม่สนใจวิธีการที่ใช้
    5. งานมันรีบ ต้องเร่งทำ ใช้คนหามมันช้า เสร็จช้า
    6. กลัวคนเหนื่อย เอาขึ้นเกวียนเบากว่า สบายกว่า
    7. ก็จะทำ จะเอาหีบพระเจ้าไป ใครจะทำไม นี่ทำเพื่อพระเจ้าอยู่นะ ยังจะมายุ่งยาก เรื่องมาก วุ่นวายอะไรอีก...

    แล้ววันนี้ ใครคนไหนนั้น เขาคิดอะไรอยู่นะ...
    สู้ต่อไป,แมน เวลาของเราสามคนจะหวนกลับมาอีกครั้งแน่

    ตอบลบ